เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
เรื่องภิกษุณีรัดสีข้าง
[416] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายใช้ประคดเอวผืนยาว ภิกษุณีเหล่านั้นใช้ผ้านั้น
รัดสีข้าง คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้
บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้ประคดเอวผืนยาว รูป
ใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตประคดเอวที่รัดได้รอบเดียวแก่
ภิกษุณี ภิกษุณีไม่พึงใช้ประคดเอวนั้นรัดสีข้าง รูปใดรัด ต้องอาบัติทุกกฏ”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายใช้แผ่นไม้สานรัดสีข้าง ใช้แผ่นหนังรัดสีข้าง ใช้แผ่นผ้า
ขาวรัดสีข้าง ใช้ช้องผ้ารัดสีข้าง ใช้เกลียวผ้ารัดสีข้าง ใช้ผ้าผืนเล็กรัดสีข้าง ใช้ช้อง
ผ้าผืนเล็กรัดสีข้าง ใช้เกลียวผ้าผืนเล็กรัดสีข้าง ใช้ช้องถักด้วยด้ายรัดสีข้าง ใช้เกลียว
ด้ายรัดสีข้าง
คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภค
กาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้แผ่นไม้สานรัดสีข้าง ...
ไม่พึงใช้แผ่นหนังรัดสีข้าง ... ไม่พึงใช้แผ่นผ้าขาวรัดสีข้าง ... ไม่พึงใช้ช้องผ้ารัดสีข้าง ...
ไม่พึงใช้เกลียวผ้ารัดสีข้าง .... ไม่พึงใช้ผ้าผืนเล็กรัดสีข้าง ... ไม่พึงใช้ช้องผ้าผืนเล็กรัด
สีข้าง ... ไม่พึงใช้เกลียวผ้าผืนเล็กรัดสีข้าง ... ไม่พึงใช้ช้องถักด้วยด้ายรัดสีข้าง ... ไม่พึง
ใช้เกลียวด้ายรัดสีข้าง รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ”

เรื่องภิกษุณีนวดกาย
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายใช้กระดูกแข้งโคขัดสีตะโพก ใช้ไม้มีสัณฐานดุจคางโค
นวดตะโพก นวดมือ นวดหลังมือ นวดเท้า นวดหลังเท้า นวดขาอ่อน นวดหน้า นวด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :337 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
ริมฝีปาก คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์
ผู้บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้กระดูกแข้งโคสีตะโพก
... ไม่พึงใช้ไม้มีสัณฐานดุจคางโคนวดตะโพก ... ไม่พึงนวดมือ ... ไม่พึงนวดหลังมือ ...
ไม่พึงนวดเท้า ... ไม่พึงนวดหลังเท้า ... ไม่พึงนวดขาอ่อน ... ไม่พึงนวดหน้า ... ไม่
พึงนวดริมฝีปาก รูปใดนวด ต้องอาบัติทุกกฏ”

เรื่องภิกษุณีทาหน้า
[417] สมัยนั้น พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์ทาหน้า ... ถูหน้า ... ผัดหน้า ... เจิมหน้า
ด้วยมโนศิลา ... ย้อมตัว ... ย้อมหน้า ... ย้อมทั้งตัวและหน้า
คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้
บริโภคกาม”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงทาหน้า ... ไม่พึงถูหน้า
... ไม่พึงผัดหน้า ... ไม่เจิมหน้าด้วยมโนศิลา ... ไม่พึงย้อมตัว ... ไม่พึงย้อมหน้า
... ไม่พึงย้อมทั้งตัวและหน้า รูปใดทำ ต้องอาบัติทุกกฏ”
สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายแต้มหน้า ... ทาแก้ม .... เล่นหูเล่นตา ... ยืนแอบที่
ประตู .... ให้ผู้อื่นฟ้อนรำ ... ตั้งสำนักหญิงแพศยา ... ตั้งร้านขายสุรา ... ตั้งร้านขายเนื้อ
ออกร้านขายของเบ็ดเตล็ด ... ประกอบการค้ากำไร ... ประกอบการค้าขาย ... ใช้ทาส
ให้ปรนนิบัติ ... ใช้ทาสีให้ปรนนิบัติ ... ใช้กรรมกรชายให้ปรนนิบัติ... ใช้กรรมกรหญิง
ให้ปรนนิบัติ... ใช้สัตว์ดิรัจฉานให้ปรนนิบัติ... ขายของสดและของสุก ... ใช้สันถัต
ขนเจียมหล่อ
คนทั้งหลายตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ฯลฯ เหมือนหญิงคฤหัสถ์ผู้
บริโภคกาม”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :338 }